เข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว

Blog ของ Somfy

รู้จักนวัตกรรมจาก Somfy ให้มากขึ้น

ประเภทบทความ

ม่านลอน ม่านจีบ ตัวเลือกยอดฮิตที่คนมักใช้ในบ้าน

“ม่าน” เป็นหนึ่งในองค์ประกอบภายในบ้านที่ขาดไม่ได้ เพราะนอกจากจะช่วยป้องกันแสงและความร้อนจากภายนอกตัวบ้านแล้ว ยังใช้ในการตกแต่งบ้านให้ดูสวยมีสไตล์และช่วยสร้างบรรยากาศภายในบ้านให้น่าอยู่มากขึ้นอีกด้วย

ซึ่งม่านแต่ละแบบนั้นจะมีฟังก์ชันและรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป อย่างม่านลอนและม่านจีบที่เรียกได้ว่าเป็นม่านยอดฮิตที่คนรักบ้านเลือกใช้กันเป็นอันดับต้น ๆ ถึงแม้ว่าจะมีลักษณะที่คล้ายกันอยู่ แต่จริง ๆ แล้วม่านทั้ง 2 แบบนี้มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป 

 

วันนี้ Somfy จึงมาไขข้อสงสัยว่า ม่านลอนและม่านจีบมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้างและแต่ละแบบเหมาะกับการใช้งานแบบไหน มาดูกัน!

ม่านลอน vs ม่านจีบ มีความแตกต่างกันอย่างไร?

ความแตกต่างของม่านลอนและม่านจีบนั้น มองผิวเผินอาจต่างกันแค่เรื่องความสวยงามและลักษณะการใช้งานที่คล้ายกัน แต่จริง ๆ แล้วยังมีดีเทลที่แตกต่างกันอยู่มากพอสมควรเลยทีเดียว 

 

1. ม่านลอน 

ม่านลอน (Wave Curtains) คือ ม่านที่ออกแบบมาให้มีลักษณะเป็นคลื่น ซึ่งจะทิ้งตัวเรียงกันเป็นลอนสวยงามและมีช่องไฟเท่ากันทุกช่องโดยไม่ต้องพับจีบหรือเจาะห่วงด้านบนผ้าม่านเหมือนม่านตาไก่ อีกทั้งยังสามารถปรับแต่งให้เข้ากับขนาดของหน้าต่างและปรับลอนได้อย่างอิสระไปจนสุดปลายผ้าได้อีกด้วย โดยทั่วไปแล้วม่านลอนจะมีให้เลือกอยู่ 2 ขนาด คือ ขนาด 60 และ 80 มิลลิเมตร และมีรางม่าน 3 แบบให้เลือกใช้ตามความชอบ ได้แก่ 

ม่านลอนโซ่ไข่ปลา (Wavy Rail) ลักษณะของรางม่านจะเป็นล้อวิ่งในรางที่ถูกเชื่อมกันไว้ด้วยโซ่ไข่ปลาและใช้ตะขอเกี่ยวตัวผ้าม่านไว้กับลูกล้อเช่นเดียวกับม่านจีบเพื่อเป็นการล็อกระยะห่างของลอนม่าน จึงทำให้ม่านเป็นลอนสวยทั้งตอนปิดและเปิดม่านนั่นเอง 

ม่านลอนเทป (S-fold Curtains) เป็นรางม่านที่ใช้เทปผ้าเป็นตัวล็อกระยะ โดยตัวเทปจะยึดเข้ากับลูกล้อที่อยู่ในราง ซึ่งจะให้ลอนผ้าม่านที่ลึกมากขึ้น

ม่านลอนรางโชว์ (Wave Curtain Pole) เป็นรางม่านเช่นเดียวกับรางม่านโซ่ไข่ปลา แต่ตัวยึดรางจะยึดได้สูงสุดเพียง 3 จุดต่อจุดติดตั้ง จึงไม่เหมาะกับหน้าต่างหรือประตูที่มีความกว้างมากกว่า 3.8 เมตรขึ้นไป 

 

ม่านลอน จึงเป็นม่านที่เหมาะกับการตกแต่งภายในบ้านที่ต้องการความทันสมัยหรือบ้านสไตล์โมเดิร์น ด้วยลอนม่านที่มีลักษณะเป็นคลื่นใหญ่เสมอกันตลอดช่วงความยาวของหน้าต่าง มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยแต่ไม่เรียบแบนจนเกินไป ทำให้บ้านดูมีมิติมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

 

2. ม่านจีบ 

ม่านจีบ (Pleated Curtains) เป็นม่านที่ตัดเย็บด้วยการจับจีบเรียงกันเป็นแนวที่ด้านบนของผ้าแล้วใส่ตะขอและแขวนเข้ากับรางม่านต่าง ๆ โดยมีทั้งแบบจีบเดี่ยว จีบคู่ และแบบ 3 จีบ อีกทั้งยังสามารถเลือกระดับความแน่นของการอัดจีบได้ว่าต้องการจับจีบรีดเรียบเพื่อให้ผ้ามีความพริ้วไหวหรืออัดจีบเพื่อให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น นอกจากนี้ม่านจีบยังสามารถติดผ้าได้ 2 ชั้น เพื่อเพิ่มความทึบแสงมากยิ่งขึ้นและยังมีให้เลือกได้หลายรูปทรง เช่น 

ม่านจีบทรงกล่องสี่เหลี่ยม เหมาะสำหรับติดตั้งบริเวณหน้าต่างห้องที่ต้องการความสบาย ผ่อนคลาย เช่น ห้องอาหาร ห้องจัดเลี้ยง เป็นต้น

ม่านจีบทรงถ้วย จะมีลักษณะการเย็บจีบคล้ายแก้วไวน์และติดตั้งซับด้านในเพื่อให้จีบอยู่ทรงสวย เหมาะสำหรับติดตั้งในห้องนั่งเล่น ห้องโถง ห้องนอน หรือห้องที่มีเพดานสูง รวมถึงห้องที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะ อย่างโรงละครหรือโรงหนัง เป็นต้น 

ม่านจีบทรงดินสอ มีรูปทรงของจีบและชายผ้าทิ้งตัวลงมาเป็นทรงคล้ายดินสอ สามารถติดตั้งได้ทั้งบริเวณหน้าต่างของห้องนอนหรือห้องรับแขก

ม่านจีบทรงมาตรฐาน ม่านทรงนี้สามารถเลือกได้ทั้งแบบรีดจีบให้เป็นสันหรือไม่รีดก็ได้ จึงเลือกได้ทั้งการติดตั้งในพื้นที่ที่ต้องการความเป็นทางการ ไม่ว่าจะเป็น ห้องทำงาน สำนักงาน ห้องรับแขก หรือหากเป็นม่านจีบแบบไม่รีดจะมีความเป็นกันเองมากขึ้น จึงเหมาะกับห้องนั่งเล่น ห้องพักผ่อน ห้องอ่านหนังสือ หรือคาเฟ่ต่าง ๆ เป็นต้น

 

จะเห็นได้ว่า ม่านจีบนั้นมีความประณีต บรรจง ซึ่งช่วยทำให้บรรยากาศภายในห้องดูสง่างาม หรูหรา ภูมิฐาน และคลาสสิก อีกทั้งยังเลือกความโปร่งแสงและความทึบแสงได้อีกด้วย ซึ่งจะมีความแตกต่างกับม่านลอนที่มีความเรียบง่ายและให้ความเป็นโมเดิร์น แต่อย่างไรก็ตามม่านทั้ง 2 แบบนี้ก็มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป มาดูกันต่อว่า ม่านลอนและม่านจีบ มีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้าง

 

ม่านลอน vs ม่านจีบ มีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้าง?

เมื่อเห็นความแตกต่างของม่านทั้ง 2 แบบกันไปแล้ว ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อม่านเราต้องรู้ก่อนว่าข้อดีและข้อเสียของม่านประเภทนั้น ๆ มีอะไรบ้าง เพื่อให้ได้ม่านที่ตรงใจและตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด!

 

ม่านลอน 

ข้อดีของม่านลอน

ดูแลรักษาง่าย เพราะม่านลอนไม่จำเป็นต้องถอดห่วงหรือตะขอ หลังการนำมาซักหรือรีดทำความสะอาดและนำไปติดตั้งใหม่จะยังได้ลอนสวยเหมือนเดิม ไม่ทำให้ลอนม่านเสียทรง 

 สามารถปรับแต่งขนาด ความลึกและความกว้างของม่านให้เข้ากับพื้นที่ได้ เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีการบิวท์อิน หรือพื้นที่ที่มีข้อจำกัด

ดีไซน์สวยงาม มีความเป็นระเบียบ โค้งลอนเป็นรูปตัว S และระยะความโค้งของลอนม่านจะเท่ากันทุกลอน จึงมีความทันสมัยและประยุกต์ใช้งานได้หลากหลาย

 

ข้อเสีย

ไม่สามารถปรับความยาวของม่านได้ จึงต้องวัดขนาดก่อนติดตั้งให้แม่นยำ หากวัดขนาดไม่ผิดไปอาจจำเป็นต้องซื้อเพื่อติดตั้งใหม่ 

ใช้เวลาในการจัดระเบียบและปรับลอนมากกว่าม่านประเภทอื่น

ช่องว่างระหว่างม่านและรางม่าน อาจทำให้มีแสงลอดเข้ามารบกวนภายในห้องได้ หากต้องการความทึบแสงมากขึ้นจำเป็นต้องติดตั้งม่านกล่องเพิ่มเพื่อปิดช่องแสง

 

ม่านจีบ 

ข้อดี

ใช้งานง่าย แข็งแรง มีวัสดุของรางม่านหลายประเภทให้เลือกใช้งาน สามารถใช้ได้กับบานหน้าต่างและประตูที่มีขนาดใหญ่มาก 

ปลายม่านมีน้ำหนัก ไม่ปลิวง่าย สามารถติดกับหน้าต่างหรือประตูที่มีลมผ่านได้

สามารถกันแสงเข้าได้ดีและเหมาะสำหรับการใช้งานที่เปิด-ปิดเป็นประจำ

ข้อเสีย

ไม่ทนต่อความชื้น เชื้อรา และอาจมีกลิ่นอับได้ง่าย แต่สามารถถอดซักเองได้ง่าย

อาจมีการสะสมฝุ่นเนื่องจากมีจีบผ้าค่อนข้างเยอะ จึงควรดูดฝุ่นเป็นประจำ

การเลือก “ม่าน” ให้ตอบโจทย์การใช้งาน

การเลือกม่านให้ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยและการตกแต่งเพื่อความสวยงามของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นม่านลอนหรือม่านจีบ อย่าลืมพิจารณาสิ่งสำคัญเหล่านี้ 

การเลือกผ้าม่าน วัสดุของผ้าม่านจะส่งผลต่อการกรองแสงและความร้อนจากภายนอก หากพื้นที่ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวอย่างห้องนอนควรเลือกผ้าม่านที่มีความทึบแสงเพื่อป้องกันแสงรบกวนขณะพักผ่อน หรือหากติดตั้งม่านในบริเวณห้องนั่งเล่นที่ต้องการความโปร่งสบาย ควรเลือกผ้าม่านที่มีความโปร่งแสงแต่ไม่ทำให้ห้องร้อนจนเกินไป ซึ่งวัสดุผ้าม่านยอดนิยม ได้แก่ ผ้าลินิน ผ้าไหม ผ้าซาติน ผ้าโพลีเอสเตอร์ เป็นต้น

ขนาด สี และลวดลาย โดยเลือกผ้าม่านให้เหมาะสมกับขนาดของบานหน้าต่างหรือประตู รวมถึงการเลือกใช้สีที่เหมาะกับบ้าน เช่น การใช้ผ้าม่านสีอ่อนจะช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้น หรือการใช้สีเข้มจะให้ความรู้สึกอบอุ่นและความเป็นส่วนตัวนั่นเอง

ฟังก์ชันของม่าน การเลือกม่านที่สามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริม เช่น มอเตอร์ไฟฟ้าที่สามารถควบคุมการใช้งานม่านได้ด้วยเทคโนโลยี Smart Home ร่วมกับอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ได้ จะช่วยให้การใช้งานม่านสะดวกสบายมากขึ้น โดยเฉพาะม่านลอนหรือม่านจีบที่อยู่สูง มีน้ำหนักมาก รวมถึงในบ้านที่มีเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือสัตว์เลี้ยง เป็นต้น

 

ดังนั้น การเลือก ใช้ “ม่าน” ให้ตอบโจทย์การใช้งานอาจจำเป็นต้องดูทั้งความสวยงาม พื้นที่ที่ต้องการติดตั้ง ข้อดีและข้อเสียของม่าน และไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยด้วย โดยเฉพาะในยุคใหม่นี้ที่ฟังก์ชันการใช้งานมีความสำคัญมากขึ้น อย่างการติดตั้งมอเตอร์อัจฉริยะสำหรับม่านที่สามารถควบคุมการใช้งานม่านได้ในระยะไกล ควบคุมการเปิด-ปิดม่านได้ผ่านรีโมตคอนโทล สมาร์ทโฟน หรือสวิตช์ ซึ่ง Somfy มีบริการติดตั้งมอเตอร์ม่านไฟฟ้าและระบบควบคุมอัจฉริยะอย่าง ‘TaHoma’ ที่จะช่วยยกระดับความสะดวกสบายให้กับบ้านของคุณ สามารถติดตั้งได้ทั้งกับม่านลอนและม่านจีบ ไม่ว่าจะชอบม่านแบบไหนเราก็พร้อมมอบความสะดวกสบายให้คุณถึงบ้าน


 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับม่านไฟฟ้าจาก Somfy ได้ที่

Facebook : www.facebook.com/SomfyThailand

Line OA : @SomfyTh

Tel : 062-872-7157

 

ค้นหาเพิ่มเติม
ประเภทบทความ
Disqus is inactive